Perimeter Intrusion Detection System (PIDS) – ระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว
Perimeter Intrusion Detection System (PIDS) คืออะไร?
ระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว หรือ Perimeter Intrusion Detection System (PIDS) คือระบบเซนเซอร์ขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับความพยายามบุกรุกบริเวณพื้นที่รอบนอกแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นแนวป้องกันด่านแรกของสถานที่ โดยอาศัยเทคโนโลยีหลากหลาย เช่น เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติก, เซนเซอร์ LiDAR และ เซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด (Photobeam) เพื่อช่วยตรวจจับผู้บุกรุกอย่างแม่นยำ
วัตถุประสงค์หลักของ PIDS คือการตรวจพบการบุกรุกตั้งแต่แนวรั้วหรือพื้นที่รอบนอก ก่อนที่ผู้บุกรุกจะเข้าสู่พื้นที่ภายในอาคาร ช่วยให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และเพิ่มความปลอดภัยให้กับบุคลากร
ระบบสามารถเชื่อมต่อเข้ากับศูนย์ควบคุมกลาง ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งใกล้เซนเซอร์ได้ทันที ทั้งในพื้นที่หรือจากห้องควบคุมระยะไกล และสามารถสั่งการ เช่น การส่งเจ้าหน้าที่หรือหรือส่งสัญญาณเสียงแจ้งเตือนตามสถานการณ์

PIDS เป็นระบบเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
PIDS ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในสถานที่สำคัญหลายประเภท เช่น ศูนย์ข้อมูล (Data Centers), โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน, สนามบิน, เรือนจำ รวมถึง โรงงานและคลังสินค้า
ขั้นตอนการทำงานของระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS)
การรักษาความปลอดภัยด้วย PIDS ซึ่งผสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เซนเซอร์ และกล้องวงจรปิด ช่วยให้สามารถตอบสนองต่อเหตุบุกรุกได้ทันทีแบบเรียลไทม์ โดยมีขั้นตอนดังนี้:
- เซนเซอร์รักษาความปลอดภัยตรวจพบการบุกรุกบริเวณพื้นที่รอบนอก และส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังห้องควบคุมใกล้เคียงหรือศูนย์เฝ้าระวังระยะไกล

- เจ้าหน้าที่ในห้องควบคุมตรวจสอบภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งใกล้ตำแหน่งเซนเซอร์ที่มีการตรวจจับ เพื่อประเมินสถานการณ์เบื้องต้นในทันที

- หากจำเป็น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะถูกส่งไปตรวจสอบพื้นที่ หรือส่งเสียงแจ้งเตือนไปยังผู้บุกรุกจากระยะไกล

ประโยชน์ของระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS)
1. การยับยั้งการบุกรุก
2. ตรวจจับผู้บุกรุกและตอบสนองได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
3. ยกระดับคุณภาพการรักษาความปลอดภัย ลดข้อผิดพลาดจากบุคลากร
ในช่วงเวลาสับเปลี่ยนกะของเจ้าหน้าที่ การเฝ้าระวังมักลดประสิทธิภาพลง การใช้เซนเซอร์รักษาความปลอดภัยช่วยลดข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้ เช่น ลดผลกระทบจากความเมื่อยล้าหรือความผิดพลาดจากการสังเกต เนื่องจากระบบสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน พร้อมให้คุณภาพการตรวจจับที่สม่ำเสมอ
4. การผสานระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย
ด้วยการแบ่งพื้นที่รอบนอกออกเป็นหลายโซน และติดตั้งเซนเซอร์รักษาความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ ทำให้สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าการบุกรุกเกิดขึ้นในตำแหน่งใด
นอกจากนี้ เมื่อเซนเซอร์ตรวจพบการบุกรุก ระบบสามารถเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดเพื่อให้กล้องที่เกี่ยวข้องทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น แสดงภาพสดแจ้งเตือนขึ้นบนหน้าจอห้องควบคุมโดยอัตโนมัติ หรือสั่งให้กล้อง PTZ หมุนไปยังตำแหน่งที่เกิดเหตุได้ทันที ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เช่น ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ แจ้งตำรวจ / ผู้เกี่ยวข้อง หรือส่งสัญญาณเสียงแจ้งเตือนจากระยะไกล กระบวนการทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน และทำให้สามารถรับมือเหตุฉุกเฉินได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที
5. ลดต้นทุนการรักษาความปลอดภัยในระยะยาว
เทคโนโลยีเซนเซอร์แบบใดจึงเหมาะสำหรับระบบ PIDS?
ในระบบ PIDS มีเทคโนโลยีเซนเซอร์หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน โดยการเลือกประเภทเซนเซอร์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งติดตั้ง พื้นที่ครอบคลุม และระดับความแม่นยำในการตรวจจับที่ต้องการ
ข้อกำหนดสำคัญของระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS)
- ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก
เนื่องจาก PIDS ถูกใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งเป็นหลัก จึงต้องลดการแจ้งเตือนผิดพลาดที่อาจเกิดจากสภาพแวดล้อม เช่น ฝน ลม ต้นไม้ที่ไหวตามลม การเคลื่อนตัวของพื้นดิน การจราจรพื้นที่ใกล้เคียง และแสงแดด ดังนั้น คุณสมบัติด้านความทนทาน เช่น ระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำ (IP Rating) รวมถึงความสามารถในการทำงานได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม จึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง - การครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่
สถานที่ที่มีแนวรั้วรอบนอกกว้างขวาง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม สนามบิน หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์ที่สามารถตรวจจับครอบคลุมระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบควรสามารถรองรับพื้นที่กว้างและขยายขนาดได้ พร้อมคงความแม่นยำในการตรวจจับ โดยใช้องค์ประกอบและการบำรุงรักษาที่น้อยที่สุด - ความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบรักษาความปลอดภัยเดิม
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานสูงสุด ระบบ PIDS ควรสามารถผสานการทำงานกับระบบความปลอดภัยเดิมที่มีอยู่ เช่น ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control) และระบบสัญญาณกันขโมย (Alarm System) การทำงานร่วมกันนี้ช่วยให้สามารถเฝ้าระวังจากส่วนกลาง ประสานงานการตอบสนองอย่างเป็นระบบ และเพิ่มการรับรู้เหตุการณ์ให้แก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
เซนเซอร์สำหรับการตรวจจับบุกรุกมีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละชนิดมีลักษณะการตรวจจับที่แตกต่างกัน (เช่น การเคลื่อนไหว ความร้อน เสียง หรือแรงกด) รวมถึงวิธีการติดตั้งที่ต่างกัน การเลือกเซนเซอร์ที่เหมาะสมจึงต้องพิจารณาตามสภาพแวดล้อมและข้อกำหนดของสถานที่นั้นๆ
บทความนี้จะแนะนำเทคโนโลยีเซนเซอร์ 3 ประเภทที่นิยมใช้ในระบบ PIDS ได้แก่: เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติก, เซนเซอร์ LiDAR และ เซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด (Photobeam)
เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติกเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีหลักที่ใช้ในระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS) เหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูงและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง โดยสามารถติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบ เช่น บนแนวรั้ว บนตาข่ายกั้น บนผนัง หรือฝังใต้ดิน (Buried Type) เซนเซอร์ประเภทนี้มีความน่าเชื่อถือสูงและรองรับการตรวจจับระยะไกล จึงเหมาะสำหรับสถานที่สำคัญด้านโครงสร้างพื้นฐาน

เซนเซอร์แบบติดตั้งบนรั้ว (Fence-Mounted Sensor) มีประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษสำหรับ ป้องกันการปีนข้ามรั้ว ระบบจะประมวลผลสัญญาณจากสายเซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติก เพื่อตรวจจับความพยายามบุกรุก เช่น การตัดรั้ว การปีน หรือการยกตัวรั้วขึ้น หน่วยประมวลผลสัญญาณแจ้งเตือน (Alarm Processor) สามารถติดตั้งบนรั้วหรือภายในห้องควบคุมได้ตามความเหมาะสม โดยมีอัลกอริธึมที่ช่วยลดการแจ้งเตือนผิดพลาดจากปัจจัยสภาพแวดล้อม เช่น ฝน ลม หรือแรงสั่นสะเทือนอื่นๆ และจะสร้างสัญญาณเตือนเฉพาะเมื่อมีการบุกรุกจริงเท่านั้น

คุณสมบัติหลัก:
- ตรวจจับแรงสั่นสะเทือนหรือการเคลื่อนตัวที่ผิดปกติได้อย่างแม่นยำ เมื่อทำการติดตั้งตามแนวรั้วหรือแผงกั้นตาข่าย
- รองรับทั้งการตรวจจับ แบบแบ่งโซน (Zone-based) และ แบบระบุตำแหน่ง (Point-based)
- มาพร้อมอัลกอริธึมขั้นสูงที่ช่วยลดการแจ้งเตือนผิดพลาดจากปัจจัยสภาพแวดล้อม
- มีความทนทานสูงต่อสภาพแวดล้อมภายนอก (ป้องกันฝุ่นและกันน้ำตามมาตรฐาน IP Rating) เหมาะกับสภาพอากาศร้อน ชื้น และฝนตกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การใช้งาน:
- เรือนจำและสถานกักกัน
- โรงไฟฟ้า สถานีไฟฟ้าย่อย และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
- อาคารหน่วยงานภาครัฐและสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
- ศูนย์ข้อมูล (Data Centers)
OPTEX ยังมี เซนเซอร์ชนิดสายทองแดง (Copper Sensor) ที่รองรับการระบุตำแหน่งตรวจจับได้ พร้อมระบบสำรอง (Redundancy) เพื่อให้เซนเซอร์ยังคงทำงานได้ แม้สายบางส่วนได้รับความเสียหาย
เซนเซอร์เหล่านี้ถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เพื่อการปกป้องแนวรั้วอย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้
ผลิตภัณฑ์เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติกและเซนเซอร์สายทองแดงจาก OPTEX:
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติก สามารถดูได้จาก รายการสินค้าในหมวด Fiber Optic Sensor / Copper Sensor
| ซีรีส์ | Fiber Defender (FD) 300 series | FD500 series | EchoPoint series | Point Defender | Terrain Defender | |||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| Models | FD322 | FD331/2 | FD341/2 | FD504/8 | FD525 | EchoPoint EP9300™ | PD500 | TD100 |
| Fiber / Copper | Fiber Optic Sensor | Copper Cable Sensor | ||||||
| การใช้งานบนรั้ว | ✓ | ✓ | ✓ | ✓ | ✓ | ✓ | ✓ | - |
| การใช้งานบนผนัง/กำแพง | - | ✓ | ✓ | ✓ | ✓ | ✓ | ✓ | - |
| การฝังใต้ดิน | - | - | - | - | - | ✓ | - | ✓ |
| Point Location | - | - | - | - | - | ±6 ม. | ±1 ม. | ±1 ม. |
| ติดตั้ง APU ห่างจากหน้างาน | - | - | 20 กม. | 5 กม. | 5 กม. | ✓ | - | - |
| รองรับการเชื่อมต่อ IP | ✓ | Option | Option | ✓ | ✓ | ✓ | ✓ | ✓ |
| จำนวนช่องสัญญาณ (โซน) | 2 | 1 / 2 | 1 / 2 | 4 / 8 | 25 | กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์ | กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์ | กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์ |
| ความยาวสายตรวจจับสูงสุดต่อโซน | 500 ม. | 5 กม. | 5 กม. | 800 ม. | 800 ม. | กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์ | กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์ | กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์ |
เซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด (Photobeam Sensor) หรือที่เรียกว่า Active Infrared Beam Sensor (IR) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS) โดยอาศัยหลักการสร้างแนวลำแสงที่มองไม่เห็นตามแนวรั้ว ผนัง หรือพื้นที่โล่ง เซนเซอร์ประกอบด้วยตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver) ที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างแนวลำแสงอินฟราเรด เมื่อมีวัตถุหรือผู้บุกรุกตัดผ่านแนวลำแสงจนทำให้ลำแสงถูกขัดขวาง ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนทันที

OPTEX ซีรีส์ SL (Smart Line) เป็นชุดเซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรดระยะไกลที่ใช้เทคโนโลยี Active IR พัฒนามาโดยเฉพาะสำหรับงานตรวจจับการบุกรุกภายนอกอาคาร มอบความเสถียรสูงแม้ในสภาพแวดล้อมที่อาจเกิดสัญญาณรบกวนจากฝน หมอก หรือสัตว์ขนาดเล็ก อีกทั้งยังมีหลายรุ่นให้เลือกตามระยะตรวจจับและเพื่อช่วยลดการแจ้งเตือนผิดพลาด
รุ่น SL-200QDM/SL-350QDM/SL-650QDM เป็นรุ่นที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมจาก SL Series โดยใช้เทคโนโลยีลำแสงสี่ชั้นแบบ Double-Modulated Quad Beams และฟังก์ชัน A.T.P.C (Automatic Transmit Power Control) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ OPTEX ช่วยลดทั้งการแจ้งเตือนผิดพลาดและการตรวจจับพลาด นอกจากนี้ยังมีไฟแสดงสถานะ (LED Indicators), ระบบเสียงช่วยในการปรับแนวลำแสง (Sound Assist) และปุ่มเลือกตำแหน่งลำแสงบน–ล่าง ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้งและปรับแนวลำแสงให้แม่นยำยิ่งขึ้น
หากต้องการทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการทำงานของเซนเซอร์ Photobeam และวิธีเลือกรุ่นให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมหรือรูปแบบไซต์งาน สามารถอ่านรายละเอียดได้ในบทความ คู่มือ Beam sensor (กันขโมย) ฉบับสมบูรณ์สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยภายนอกอาคาร
คุณสมบัติหลัก:
- รองรับการติดตั้งหลากหลายรูปแบบ : บนรั้ว ผนัง หรือเสา
- รองรับการตรวจจับระยะไกล (บางรุ่นตรวจจับได้ไกลถึง 200 เมตร)
- ใช้เทคโนโลยีและฟังก์ชันที่ช่วยลดการแจ้งเตือนผิดพลาดจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศ แสงแดด สัตว์ขนาดเล็ก หรือฝูงนก
- โครงสร้างที่ออกแบบมาให้ปรับแนวลำแสงได้ง่าย ช่วยลดเวลาในการติดตั้ง
- ออกแบบให้มีความไวในการตรวจจับสูง (High-sensitivity) และทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพแม้ในสภาพอากาศที่รุนแรง
- แจ้งเตือนทันทีเมื่อประสิทธิภาพการตรวจจับลดลงจากหมอก ฝนตกหนัก หรือสภาพอากาศที่รุนแรงอื่น ๆ (ส่งสัญญาณแจ้งเตือนผ่านวงจร DQ)
การใช้งาน:
- โรงงานและคลังสินค้า
- อาคารพาณิชย์
- ที่อยู่อาศัย
- สนามบิน
ผลิตภัณฑ์กลุ่มเซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด (Photobeam Sensor) จาก OPTEX:
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Photobeam Sensor สามารถดูได้ที่ รายการสินค้าในหมวดเซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด
| ซีรีส์ | SL-QDM/QDP/QN Series | SL-QFR/QNR Series | |||
|---|---|---|---|---|---|
| Models | SL-200QDM/SL-350QDM/SL-650QDM | SL-200QDP/SL-350QDP/SL-650QDP | SL-200QN/SL-350QN/SL-650QN | SL-350QFR | SL-350QNR |
| จำนวนลำแสง | 4 ลำแสง | ||||
| ระยะตรวจจับ | 60 ม. / 100 ม. / 200 ม. | 100 ม. | |||
| รูปแบบการเชื่อมต่อ | เดินสาย | ไร้สาย | |||
| ช่องสัญญาณลำแสง | เลือกได้ 4 ช่องสัญญาณ | เลือกได้ 4 ช่องสัญญาณ | |||
| การป้องกันแสงแดด | ★★ | ★ | |||
| ความต้านทานสัญญาณรบกวน | ★★ | ★ | ★ | ||
| ความทนทานต่อฟ้าผ่า | ★ | ★ | ★ | ★★ | ★★ |
| Beam power control selector | ✓ | ✓ | |||
| Automatic transmit power control | ✓ | ||||
| LED indicator and sound assist | ✓ | ✓ (เฉพาะตัวรับสัญญาณ) | |||
| Upper/Lower beam selection button | ✓ | ✓ | |||
| ระดับการป้องกัน (IP Rating) | IP65 | ||||
เซนเซอร์ LiDAR (Light Detection and Ranging) ทำงานโดยใช้ลำแสงเลเซอร์วัดเวลาการสะท้อนกลับ เพื่อคำนวณระยะทาง ความเร็ว และขนาดของวัตถุได้อย่างแม่นยำ เซนเซอร์ LiDAR ของ OPTEX สามารถสร้าง กำแพงเสมือน (Virtual Wall) เพื่อปกป้องพื้นที่โดยรอบ สามารถกำหนดโซนความปลอดภัยได้อย่างชัดเจน และรองรับการตรวจจับแบบเรียลไทม์

เมื่อมีบุคคลเข้าสู่พื้นที่ตรวจจับที่กำหนดไว้ เซนเซอร์จะส่งสัญญาณเตือนทันที และสามารถเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับระบบกล้องวงจรปิดหรือไซเรน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับพฤติกรรมต้องสงสัย เช่น การวนเวียนใกล้แนวรั้ว หรือการคลานเข้าใกล้พื้นที่สำคัญ
เซนเซอร์ LiDAR เหมาะสำหรับ ระบบรักษาความปลอดภัยภายนอก ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บริเวณทางเข้า–ออก หรือพื้นที่โล่งที่ไม่มีแนวรั้วกั้น จึงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นโซลูชันป้องกันการบุกรุกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับสถานประกอบการ

คุณสมบัติหลัก:
- รองรับการติดตั้งหลายรูปแบบ : บนผนัง เพดาน และเสา
- ในรุ่น REDSCAN Pro และ REDSCAN mini-Pro สามารถปรับค่าขนาดและความไวของวัตถุเป้าหมายในแต่ละโซนตรวจจับได้อย่างอิสระ (รองรับการตรวจจับแบบแยกอิสระ 8 โซน)
- เหมาะสำหรับการปกป้องพื้นที่บนดาดฟ้า การตรวจจับผู้บุกรุกที่คลานใกล้แนวรั้ว และผู้ที่วิ่งเข้ามายังพื้นที่ตรวจจับ
- รุ่นที่ออกแบบสำหรับใช้งานภายนอกอาคารได้รับการพัฒนาให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อม พร้อมคุณสมบัติกันฝุ่นและกันน้ำตามมาตรฐาน IP Rating
- ฟังก์ชัน Small Animal Tolerance และ Environmental Resistance ช่วยลดผลกระทบจากสัญญาณรบกวนในสภาพแวดล้อม เช่น สภาพอากาศ การจราจรในพื้นที่ใกล้เคียง หรือหญ้าที่ไหวตามลมบริเวณพื้น
- รุ่น REDSCAN Pro และ REDSCAN mini-Pro รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อ ONVIF Profile S

การใช้งาน:
- โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
- สนามบิน
- โรงงานและคลังสินค้า
- อาคารพาณิชย์
- ศูนย์ข้อมูล (Data Centers)
ผลิตภัณฑ์กลุ่มเซนเซอร์ LiDAR จาก OPTEX:
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซนเซอร์ LiDAR สามารถดูได้ที่ รายการสินค้าในหมวดเซนเซอร์เทคโนโลยี LiDAR
| ซีรีส์ | REDSCAN Pro | REDSCAN mini | REDSCAN mini-Pro | REDSCAN Lite | |||
|---|---|---|---|---|---|---|---|
| Models | RLS-50100V | RLS-3060V | RLS-2020S | RLS-2020I | RLS-2020V | RLS-2020A | RLS-1010L |
| ระยะตรวจจับ | 50×100 ม., 190° | 30×60 ม., 190° | 20×20 ม., 95° | 20×20 ม., 95° | 10×10 ม., 95° | ||
| กล้อง | ✓ | ✓ | N/A | N/A | ✓ | N/A | N/A |
| ตำแหน่งติดตั้ง | ภายใน/ภายนอกอาคาร | ภายในอาคาร | ภายใน/ภายนอกอาคาร/td> | ภายใน/ภายนอกอาคาร | ภายในอาคาร | ||
| ความละเอียดการตรวจจับ |
โหมด Indoor & Outdoor & และ Indoor throw-in mode: 0.25 องศา
โหมด High-resolution: 0.125 องศา |
0.25 องศา | 0.125 องศา | 0.25 องศา | 0.125 องศา | ||
| Communication Port | Ethernet RJ45 10Base-T/100BASE-TX (Auto negotiation) | RS-485 | |||||
| โปรโตคอลที่รองรับ | UDP/TCP/HTTP/HTTPS/IPV4/DNS/DHCP/SNMPv1-v3/NTP/WS-Discovery/ONVIF | TCP/IP, UDP/IP, DHCP, DNS, HTTP, HTTPS, FTP, SNMPv1-v3, ICMP, ARP | UDP/TCP/HTTP/HTTPS/IPV4/IPV6/DNS/DHCP/SNMPv1-v3/NTP/WS-Discovery/ONVIF/IEEE802.1X | TBC | |||
| การสร้างโซน | สูงสุด 8 โซน | สูงสุด 4 โซน | สูงสุด 8 โซน | 1 โซน | |||
| ระดับการป้องกัน (IP Rating) | IP66 | IP55 | |||||
| Laser Safety | Class1 laser protection class | ||||||
โซลูชัน PIDS สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เซนเซอร์ของ OPTEX สำหรับระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS) ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในการนำเสนอในงานประกวดราคา และมีผลงานติดตั้งในโครงการขนาดใหญ่ทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โซลูชัน PIDS ของ OPTEX ถูกนำไปใช้งานในสถานที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โรงงานพลังงาน เรือนจำ ศูนย์ข้อมูล (Data Centers) และสนามบิน ไปจนถึงโรงงาน คลังสินค้า ร้านค้าปลีก และที่อยู่อาศัย
OPTEX มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันที่ปรับให้เหมาะสมกับลักษณะของแต่ละไซต์งาน พร้อมนำเสนอความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจว่าระบบสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
คุณสามารถดูตัวอย่างโครงการติดตั้งและการประยุกต์ใช้ระบบ PIDS เพิ่มเติมได้ในหน้า ตัวอย่างการใช้งาน























