Perimeter Intrusion Detection System (PIDS) – ระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว

Perimeter Intrusion Detection System (PIDS) คืออะไร?

ระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว หรือ Perimeter Intrusion Detection System (PIDS) คือระบบเซนเซอร์ขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับความพยายามบุกรุกบริเวณพื้นที่รอบนอกแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นแนวป้องกันด่านแรกของสถานที่ โดยอาศัยเทคโนโลยีหลากหลาย เช่น เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติก, เซนเซอร์ LiDAR และ เซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด (Photobeam) เพื่อช่วยตรวจจับผู้บุกรุกอย่างแม่นยำ
วัตถุประสงค์หลักของ PIDS คือการตรวจพบการบุกรุกตั้งแต่แนวรั้วหรือพื้นที่รอบนอก ก่อนที่ผู้บุกรุกจะเข้าสู่พื้นที่ภายในอาคาร ช่วยให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และเพิ่มความปลอดภัยให้กับบุคลากร
ระบบสามารถเชื่อมต่อเข้ากับศูนย์ควบคุมกลาง ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งใกล้เซนเซอร์ได้ทันที ทั้งในพื้นที่หรือจากห้องควบคุมระยะไกล และสามารถสั่งการ เช่น การส่งเจ้าหน้าที่หรือหรือส่งสัญญาณเสียงแจ้งเตือนตามสถานการณ์

PIDS เป็นระบบเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
PIDS ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในสถานที่สำคัญหลายประเภท เช่น ศูนย์ข้อมูล (Data Centers), โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน, สนามบิน, เรือนจำ รวมถึง โรงงานและคลังสินค้า

pids_fiber-sensor
pids_beam-sensor
pids_lidar-sensor
pids_fiber-sensor
pids_beam-sensor
pids_lidar-sensor

ขั้นตอนการทำงานของระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS)

การรักษาความปลอดภัยด้วย PIDS ซึ่งผสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เซนเซอร์ และกล้องวงจรปิด ช่วยให้สามารถตอบสนองต่อเหตุบุกรุกได้ทันทีแบบเรียลไทม์ โดยมีขั้นตอนดังนี้:

  1. เซนเซอร์รักษาความปลอดภัยตรวจพบการบุกรุกบริเวณพื้นที่รอบนอก และส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังห้องควบคุมใกล้เคียงหรือศูนย์เฝ้าระวังระยะไกล
  1. เจ้าหน้าที่ในห้องควบคุมตรวจสอบภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งใกล้ตำแหน่งเซนเซอร์ที่มีการตรวจจับ เพื่อประเมินสถานการณ์เบื้องต้นในทันที
  1. หากจำเป็น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะถูกส่งไปตรวจสอบพื้นที่ หรือส่งเสียงแจ้งเตือนไปยังผู้บุกรุกจากระยะไกล

ประโยชน์ของระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS)

1. การยับยั้งการบุกรุก

การติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่มองเห็นได้ชัดภายในพื้นที่ สามารถช่วยขัดขวางและยับยั้งผู้ไม่ประสงค์ดี ไม่กล้าพยายามบุกรุกหรือเข้าถึงพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต

2. ตรวจจับผู้บุกรุกและตอบสนองได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

แนวรั้วหรือพื้นที่รอบนอกถือเป็นด่านแรกของสถานที่ ระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณแนวรั้วช่วยให้สามารถตรวจพบภัยคุกคาม เช่น การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือพฤติกรรมต้องสงสัย ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ทำให้สามารถตอบสนองต่อเหตุได้ทันท่วงทีก่อนที่ผู้บุกรุกจะเข้าถึงตัวอาคาร

3. ยกระดับคุณภาพการรักษาความปลอดภัย ลดข้อผิดพลาดจากบุคลากร

หลายสถานที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่พึ่งพาเฉพาะเจ้าหน้าที่ หรือใช้ร่วมกับกล้องวงจรปิด (CCTV) ซึ่งในพื้นที่ขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่อาจมองไม่เห็นทุกจุด หรืออาจเกิดการมองข้ามเหตุการณ์สำคัญได้ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงของข้อผิดพลาดจากบุคลากร (Human Error)

ในช่วงเวลาสับเปลี่ยนกะของเจ้าหน้าที่ การเฝ้าระวังมักลดประสิทธิภาพลง การใช้เซนเซอร์รักษาความปลอดภัยช่วยลดข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้ เช่น ลดผลกระทบจากความเมื่อยล้าหรือความผิดพลาดจากการสังเกต เนื่องจากระบบสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน พร้อมให้คุณภาพการตรวจจับที่สม่ำเสมอ

4. การผสานระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย

PIDS เป็นโซลูชันรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรที่สามารถผสานการทำงานร่วมกับระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control) และระบบสัญญาณกันขโมย (Alarm System)
ด้วยการแบ่งพื้นที่รอบนอกออกเป็นหลายโซน และติดตั้งเซนเซอร์รักษาความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ ทำให้สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าการบุกรุกเกิดขึ้นในตำแหน่งใด
นอกจากนี้ เมื่อเซนเซอร์ตรวจพบการบุกรุก ระบบสามารถเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดเพื่อให้กล้องที่เกี่ยวข้องทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น แสดงภาพสดแจ้งเตือนขึ้นบนหน้าจอห้องควบคุมโดยอัตโนมัติ หรือสั่งให้กล้อง PTZ หมุนไปยังตำแหน่งที่เกิดเหตุได้ทันที ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เช่น ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ แจ้งตำรวจ / ผู้เกี่ยวข้อง หรือส่งสัญญาณเสียงแจ้งเตือนจากระยะไกล กระบวนการทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน และทำให้สามารถรับมือเหตุฉุกเฉินได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที

5. ลดต้นทุนการรักษาความปลอดภัยในระยะยาว

ค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นทุกปีเป็นประเด็นสำคัญที่หลายองค์กรต้องหาทางแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่ค่าแรงของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Hybrid ที่ผสานการทำงานของระบบ PIDS ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สามารถช่วยลดต้นทุนคงที่ในระยะยาวได้ โดยการใช้ระบบแจ้งเตือนและเซนเซอร์แทนจำนวนเจ้าหน้าที่บางส่วน ทำให้ยังคงประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยไว้ได้ ในขณะที่ลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรลงอย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีเซนเซอร์แบบใดจึงเหมาะสำหรับระบบ PIDS?

ในระบบ PIDS มีเทคโนโลยีเซนเซอร์หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน โดยการเลือกประเภทเซนเซอร์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งติดตั้ง พื้นที่ครอบคลุม และระดับความแม่นยำในการตรวจจับที่ต้องการ

ข้อกำหนดสำคัญของระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS)

  • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก
    เนื่องจาก PIDS ถูกใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งเป็นหลัก จึงต้องลดการแจ้งเตือนผิดพลาดที่อาจเกิดจากสภาพแวดล้อม เช่น ฝน ลม ต้นไม้ที่ไหวตามลม การเคลื่อนตัวของพื้นดิน การจราจรพื้นที่ใกล้เคียง และแสงแดด ดังนั้น คุณสมบัติด้านความทนทาน เช่น ระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำ (IP Rating) รวมถึงความสามารถในการทำงานได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม จึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง
  • การครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่
    สถานที่ที่มีแนวรั้วรอบนอกกว้างขวาง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม สนามบิน หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์ที่สามารถตรวจจับครอบคลุมระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบควรสามารถรองรับพื้นที่กว้างและขยายขนาดได้ พร้อมคงความแม่นยำในการตรวจจับ โดยใช้องค์ประกอบและการบำรุงรักษาที่น้อยที่สุด
  • ความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบรักษาความปลอดภัยเดิม
    เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานสูงสุด ระบบ PIDS ควรสามารถผสานการทำงานกับระบบความปลอดภัยเดิมที่มีอยู่ เช่น ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control) และระบบสัญญาณกันขโมย (Alarm System) การทำงานร่วมกันนี้ช่วยให้สามารถเฝ้าระวังจากส่วนกลาง ประสานงานการตอบสนองอย่างเป็นระบบ และเพิ่มการรับรู้เหตุการณ์ให้แก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

เซนเซอร์สำหรับการตรวจจับบุกรุกมีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละชนิดมีลักษณะการตรวจจับที่แตกต่างกัน (เช่น การเคลื่อนไหว ความร้อน เสียง หรือแรงกด) รวมถึงวิธีการติดตั้งที่ต่างกัน การเลือกเซนเซอร์ที่เหมาะสมจึงต้องพิจารณาตามสภาพแวดล้อมและข้อกำหนดของสถานที่นั้นๆ

บทความนี้จะแนะนำเทคโนโลยีเซนเซอร์ 3 ประเภทที่นิยมใช้ในระบบ PIDS ได้แก่: เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติก, เซนเซอร์ LiDAR และ เซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด (Photobeam)

pids_fiber-sensor
pids_beam-sensor
pids_lidar-sensor
  • null

    เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติก (Fiber Optic Sensor) สำหรับระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว

เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติกเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีหลักที่ใช้ในระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS) เหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูงและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง โดยสามารถติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบ เช่น บนแนวรั้ว บนตาข่ายกั้น บนผนัง หรือฝังใต้ดิน (Buried Type) เซนเซอร์ประเภทนี้มีความน่าเชื่อถือสูงและรองรับการตรวจจับระยะไกล จึงเหมาะสำหรับสถานที่สำคัญด้านโครงสร้างพื้นฐาน

เซนเซอร์แบบติดตั้งบนรั้ว (Fence-Mounted Sensor) มีประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษสำหรับ ป้องกันการปีนข้ามรั้ว ระบบจะประมวลผลสัญญาณจากสายเซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติก เพื่อตรวจจับความพยายามบุกรุก เช่น การตัดรั้ว การปีน หรือการยกตัวรั้วขึ้น หน่วยประมวลผลสัญญาณแจ้งเตือน (Alarm Processor) สามารถติดตั้งบนรั้วหรือภายในห้องควบคุมได้ตามความเหมาะสม โดยมีอัลกอริธึมที่ช่วยลดการแจ้งเตือนผิดพลาดจากปัจจัยสภาพแวดล้อม เช่น ฝน ลม หรือแรงสั่นสะเทือนอื่นๆ และจะสร้างสัญญาณเตือนเฉพาะเมื่อมีการบุกรุกจริงเท่านั้น

คุณสมบัติหลัก:

  • ตรวจจับแรงสั่นสะเทือนหรือการเคลื่อนตัวที่ผิดปกติได้อย่างแม่นยำ เมื่อทำการติดตั้งตามแนวรั้วหรือแผงกั้นตาข่าย
  • รองรับทั้งการตรวจจับ แบบแบ่งโซน (Zone-based) และ แบบระบุตำแหน่ง (Point-based)
  • มาพร้อมอัลกอริธึมขั้นสูงที่ช่วยลดการแจ้งเตือนผิดพลาดจากปัจจัยสภาพแวดล้อม
  • มีความทนทานสูงต่อสภาพแวดล้อมภายนอก (ป้องกันฝุ่นและกันน้ำตามมาตรฐาน IP Rating) เหมาะกับสภาพอากาศร้อน ชื้น และฝนตกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การใช้งาน:

  • เรือนจำและสถานกักกัน
  • โรงไฟฟ้า สถานีไฟฟ้าย่อย และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
  • อาคารหน่วยงานภาครัฐและสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
  • ศูนย์ข้อมูล (Data Centers)

OPTEX ยังมี เซนเซอร์ชนิดสายทองแดง (Copper Sensor) ที่รองรับการระบุตำแหน่งตรวจจับได้ พร้อมระบบสำรอง (Redundancy) เพื่อให้เซนเซอร์ยังคงทำงานได้ แม้สายบางส่วนได้รับความเสียหาย
เซนเซอร์เหล่านี้ถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เพื่อการปกป้องแนวรั้วอย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้

ผลิตภัณฑ์เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติกและเซนเซอร์สายทองแดงจาก OPTEX:

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เซนเซอร์ไฟเบอร์ออปติก สามารถดูได้จาก รายการสินค้าในหมวด Fiber Optic Sensor / Copper Sensor

ซีรีส์ Fiber Defender (FD) 300 series FD500 series EchoPoint series Point Defender Terrain Defender
Models FD322 FD331/2 FD341/2 FD504/8 FD525 EchoPoint EP9300™ PD500 TD100
Fiber / Copper Fiber Optic Sensor Copper Cable Sensor
การใช้งานบนรั้ว -
การใช้งานบนผนัง/กำแพง - -
การฝังใต้ดิน - - - - - -
Point Location - - - - - ±6 ม. ±1 ม. ±1 ม.
ติดตั้ง APU ห่างจากหน้างาน - - 20 กม. 5 กม. 5 กม. - -
รองรับการเชื่อมต่อ IP Option Option
จำนวนช่องสัญญาณ (โซน) 2 1 / 2 1 / 2 4 / 8 25 กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์ กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์ กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์
ความยาวสายตรวจจับสูงสุดต่อโซน 500 ม. 5 กม. 5 กม. 800 ม. 800 ม. กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์ กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์ กำหนดค่าผ่านซอฟต์แวร์
  • null

    เซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด (Photobeam Sensor) สำหรับระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว

เซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด (Photobeam Sensor) หรือที่เรียกว่า Active Infrared Beam Sensor (IR) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS) โดยอาศัยหลักการสร้างแนวลำแสงที่มองไม่เห็นตามแนวรั้ว ผนัง หรือพื้นที่โล่ง เซนเซอร์ประกอบด้วยตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver) ที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างแนวลำแสงอินฟราเรด เมื่อมีวัตถุหรือผู้บุกรุกตัดผ่านแนวลำแสงจนทำให้ลำแสงถูกขัดขวาง ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนทันที

OPTEX ซีรีส์ SL (Smart Line) เป็นชุดเซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรดระยะไกลที่ใช้เทคโนโลยี Active IR พัฒนามาโดยเฉพาะสำหรับงานตรวจจับการบุกรุกภายนอกอาคาร มอบความเสถียรสูงแม้ในสภาพแวดล้อมที่อาจเกิดสัญญาณรบกวนจากฝน หมอก หรือสัตว์ขนาดเล็ก อีกทั้งยังมีหลายรุ่นให้เลือกตามระยะตรวจจับและเพื่อช่วยลดการแจ้งเตือนผิดพลาด
รุ่น SL-200QDM/SL-350QDM/SL-650QDM เป็นรุ่นที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมจาก SL Series โดยใช้เทคโนโลยีลำแสงสี่ชั้นแบบ Double-Modulated Quad Beams และฟังก์ชัน A.T.P.C (Automatic Transmit Power Control) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ OPTEX ช่วยลดทั้งการแจ้งเตือนผิดพลาดและการตรวจจับพลาด นอกจากนี้ยังมีไฟแสดงสถานะ (LED Indicators), ระบบเสียงช่วยในการปรับแนวลำแสง (Sound Assist) และปุ่มเลือกตำแหน่งลำแสงบน–ล่าง ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้งและปรับแนวลำแสงให้แม่นยำยิ่งขึ้น

หากต้องการทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการทำงานของเซนเซอร์ Photobeam และวิธีเลือกรุ่นให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมหรือรูปแบบไซต์งาน สามารถอ่านรายละเอียดได้ในบทความ คู่มือ Beam sensor (กันขโมย) ฉบับสมบูรณ์สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยภายนอกอาคาร

คุณสมบัติหลัก:

  • รองรับการติดตั้งหลากหลายรูปแบบ : บนรั้ว ผนัง หรือเสา
  • รองรับการตรวจจับระยะไกล (บางรุ่นตรวจจับได้ไกลถึง 200 เมตร)
  • ใช้เทคโนโลยีและฟังก์ชันที่ช่วยลดการแจ้งเตือนผิดพลาดจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศ แสงแดด สัตว์ขนาดเล็ก หรือฝูงนก
  • โครงสร้างที่ออกแบบมาให้ปรับแนวลำแสงได้ง่าย ช่วยลดเวลาในการติดตั้ง
  • ออกแบบให้มีความไวในการตรวจจับสูง (High-sensitivity) และทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพแม้ในสภาพอากาศที่รุนแรง
  • แจ้งเตือนทันทีเมื่อประสิทธิภาพการตรวจจับลดลงจากหมอก ฝนตกหนัก หรือสภาพอากาศที่รุนแรงอื่น ๆ (ส่งสัญญาณแจ้งเตือนผ่านวงจร DQ)

การใช้งาน:

  • โรงงานและคลังสินค้า
  • อาคารพาณิชย์
  • ที่อยู่อาศัย
  • สนามบิน

ผลิตภัณฑ์กลุ่มเซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด (Photobeam Sensor) จาก OPTEX:

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Photobeam Sensor สามารถดูได้ที่ รายการสินค้าในหมวดเซนเซอร์ลำแสงอินฟราเรด

ซีรีส์ SL-QDM/QDP/QN Series SL-QFR/QNR Series
Models SL-200QDM/SL-350QDM/SL-650QDM SL-200QDP/SL-350QDP/SL-650QDP SL-200QN/SL-350QN/SL-650QN SL-350QFR SL-350QNR
จำนวนลำแสง 4 ลำแสง
ระยะตรวจจับ 60 ม. / 100 ม. / 200 ม. 100 ม.
รูปแบบการเชื่อมต่อ เดินสาย ไร้สาย
ช่องสัญญาณลำแสง เลือกได้ 4 ช่องสัญญาณ เลือกได้ 4 ช่องสัญญาณ
การป้องกันแสงแดด ★★
ความต้านทานสัญญาณรบกวน ★★
ความทนทานต่อฟ้าผ่า ★★ ★★
Beam power control selector
Automatic transmit power control
LED indicator and sound assist ✓ (เฉพาะตัวรับสัญญาณ)
Upper/Lower beam selection button
ระดับการป้องกัน (IP Rating) IP65
  • null

    เซนเซอร์ LiDAR สำหรับระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว

เซนเซอร์ LiDAR (Light Detection and Ranging) ทำงานโดยใช้ลำแสงเลเซอร์วัดเวลาการสะท้อนกลับ เพื่อคำนวณระยะทาง ความเร็ว และขนาดของวัตถุได้อย่างแม่นยำ เซนเซอร์ LiDAR ของ OPTEX สามารถสร้าง กำแพงเสมือน (Virtual Wall) เพื่อปกป้องพื้นที่โดยรอบ สามารถกำหนดโซนความปลอดภัยได้อย่างชัดเจน และรองรับการตรวจจับแบบเรียลไทม์

lidar-at-perimeter

เมื่อมีบุคคลเข้าสู่พื้นที่ตรวจจับที่กำหนดไว้ เซนเซอร์จะส่งสัญญาณเตือนทันที และสามารถเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับระบบกล้องวงจรปิดหรือไซเรน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับพฤติกรรมต้องสงสัย เช่น การวนเวียนใกล้แนวรั้ว หรือการคลานเข้าใกล้พื้นที่สำคัญ
เซนเซอร์ LiDAR เหมาะสำหรับ ระบบรักษาความปลอดภัยภายนอก ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บริเวณทางเข้า–ออก หรือพื้นที่โล่งที่ไม่มีแนวรั้วกั้น จึงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นโซลูชันป้องกันการบุกรุกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับสถานประกอบการ

image of detecting person loitering near fences

คุณสมบัติหลัก:

  • รองรับการติดตั้งหลายรูปแบบ : บนผนัง เพดาน และเสา
  • ในรุ่น REDSCAN Pro และ REDSCAN mini-Pro สามารถปรับค่าขนาดและความไวของวัตถุเป้าหมายในแต่ละโซนตรวจจับได้อย่างอิสระ (รองรับการตรวจจับแบบแยกอิสระ 8 โซน)
  • เหมาะสำหรับการปกป้องพื้นที่บนดาดฟ้า การตรวจจับผู้บุกรุกที่คลานใกล้แนวรั้ว และผู้ที่วิ่งเข้ามายังพื้นที่ตรวจจับ
  • รุ่นที่ออกแบบสำหรับใช้งานภายนอกอาคารได้รับการพัฒนาให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อม พร้อมคุณสมบัติกันฝุ่นและกันน้ำตามมาตรฐาน IP Rating
  • ฟังก์ชัน Small Animal Tolerance และ Environmental Resistance ช่วยลดผลกระทบจากสัญญาณรบกวนในสภาพแวดล้อม เช่น สภาพอากาศ การจราจรในพื้นที่ใกล้เคียง หรือหญ้าที่ไหวตามลมบริเวณพื้น
  • รุ่น REDSCAN Pro และ REDSCAN mini-Pro รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อ ONVIF Profile S

การใช้งาน:

  • โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
  • สนามบิน
  • โรงงานและคลังสินค้า
  • อาคารพาณิชย์
  • ศูนย์ข้อมูล (Data Centers)

ผลิตภัณฑ์กลุ่มเซนเซอร์ LiDAR จาก OPTEX:

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซนเซอร์ LiDAR สามารถดูได้ที่ รายการสินค้าในหมวดเซนเซอร์เทคโนโลยี LiDAR

ซีรีส์ REDSCAN Pro REDSCAN mini REDSCAN mini-Pro REDSCAN Lite
Models RLS-50100V RLS-3060V RLS-2020S RLS-2020I RLS-2020V RLS-2020A RLS-1010L
ระยะตรวจจับ 50×100 ม., 190° 30×60 ม., 190° 20×20 ม., 95° 20×20 ม., 95° 10×10 ม., 95°
กล้อง N/A N/A N/A N/A
ตำแหน่งติดตั้ง ภายใน/ภายนอกอาคาร ภายในอาคาร ภายใน/ภายนอกอาคาร/td> ภายใน/ภายนอกอาคาร ภายในอาคาร
ความละเอียดการตรวจจับ โหมด Indoor & Outdoor & และ Indoor throw-in mode: 0.25 องศา โหมด High-resolution: 0.125 องศา
0.25 องศา 0.125 องศา 0.25 องศา 0.125 องศา
Communication Port Ethernet RJ45 10Base-T/100BASE-TX (Auto negotiation) RS-485
โปรโตคอลที่รองรับ UDP/TCP/HTTP/HTTPS/IPV4/DNS/DHCP/SNMPv1-v3/NTP/WS-Discovery/ONVIF TCP/IP, UDP/IP, DHCP, DNS, HTTP, HTTPS, FTP, SNMPv1-v3, ICMP, ARP UDP/TCP/HTTP/HTTPS/IPV4/IPV6/DNS/DHCP/SNMPv1-v3/NTP/WS-Discovery/ONVIF/IEEE802.1X TBC
การสร้างโซน สูงสุด 8 โซน สูงสุด 4 โซน สูงสุด 8 โซน 1 โซน
ระดับการป้องกัน (IP Rating) IP66 IP55
Laser Safety Class1 laser protection class

โซลูชัน PIDS สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เซนเซอร์ของ OPTEX สำหรับระบบตรวจจับการบุกรุกตามแนวรั้ว (PIDS) ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในการนำเสนอในงานประกวดราคา และมีผลงานติดตั้งในโครงการขนาดใหญ่ทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โซลูชัน PIDS ของ OPTEX ถูกนำไปใช้งานในสถานที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โรงงานพลังงาน เรือนจำ ศูนย์ข้อมูล (Data Centers) และสนามบิน ไปจนถึงโรงงาน คลังสินค้า ร้านค้าปลีก และที่อยู่อาศัย
OPTEX มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันที่ปรับให้เหมาะสมกับลักษณะของแต่ละไซต์งาน พร้อมนำเสนอความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจว่าระบบสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
คุณสามารถดูตัวอย่างโครงการติดตั้งและการประยุกต์ใช้ระบบ PIDS เพิ่มเติมได้ในหน้า ตัวอย่างการใช้งาน

ติดต่อ OPTEX

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทุกเมื่อ

เราพร้อมให้การสนับสนุนและนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ