ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control) คืออะไร? ความหมาย องค์ประกอบสำคัญ และการป้องกันการลักลอบติดตาม (Tailgating)
บทความนี้อธิบายว่า Access Control คืออะไร รวมถึงองค์ประกอบหลัก วิธีการยืนยันตัวตนที่ใช้ทั่วไป ตลอดจนช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอย่างการลักลอบติดตาม (Tailgating) พร้อมแนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงโซลูชันป้องกันการลักลอบติดตามขั้นสูงจาก OPTEX
ความหมายและความสำคัญของระบบ Access Control
Access Control คือระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้จัดการและควบคุมการเข้า–ออกของบุคคลในอาคาร พื้นที่ปฏิบัติงาน หรือโซนเฉพาะ เพื่อให้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงจากการบุกรุก การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และปกป้องชีวิต ทรัพย์สิน รวมถึงข้อมูลสำคัญขององค์กร
ระบบ Access Control ประกอบด้วยกระบวนการหลัก 2 ขั้นตอน ได้แก่ การยืนยันตัวตน (Authentication) และ การกำหนดสิทธิ์ (Authorization)
- การยืนยันตัวตน (Authentication): การตรวจสอบตัวตนด้วยวิธีต่างๆ เช่น บัตรเข้าออก รหัสผ่าน/รหัส PIN ลายนิ้วมือ หรือระบบจดจำใบหน้า
- การกำหนดสิทธิ์ (Authorization): การกำหนดว่าบุคคลที่ยืนยันตัวตนแล้วมีสิทธิ์เข้าพื้นที่ใดบ้าง
เมื่อบุคคลได้รับการยืนยันตัวตนและสิทธิ์ ระบบ Access Control จะสั่งปลดล็อกประตูหรือเปิดประตูอัตโนมัติ เพื่อให้ผ่านเข้าได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกข้อมูลว่า ใคร เข้า–ออก เมื่อไร และที่ไหน เพื่อใช้ตรวจสอบย้อนหลัง ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและการควบคุมภายในองค์กร
ปัจจุบัน Access Control ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในอาคารสำนักงาน ห้องวิจัย ศูนย์ข้อมูล (Data Center) โรงพยาบาล สนามบิน และพื้นที่ที่ต้องการมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับสูง เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านความปลอดภัย (Security Policy) และข้อกำหนดตามมาตรฐานต่างๆ

องค์ประกอบสำคัญของระบบ Access Control
ระบบ Access Control ทำหน้าที่ควบคุมการเข้า–ออกพื้นที่ต่างๆ ผ่านการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ยืนยันตัวตน ตัวควบคุมหลัก และกลไกประตูหรือทางผ่าน โดยมีองค์ประกอบหลักดังนี้
1. อุปกรณ์ยืนยันตัวตน (Authentication Devices)
อุปกรณ์ยืนยันตัวตนทำหน้าที่ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้งาน โดยผู้ใช้ต้องแสดงข้อมูลระบุตัวตน เช่น บัตรเข้าออก รหัส PIN หรือลายนิ้วมือ อุปกรณ์ที่ใช้บ่อย ได้แก่
- เครื่องอ่านบัตร (Card Readers)
- แป้นพิมพ์รหัส (PIN Pads)
- เครื่องอ่านบัตร (Card Readers)
2. ตัวควบคุมหลัก (Controller)
Controller เป็นหน่วยประมวลผลกลางของระบบ Access Control ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากอุปกรณ์ยืนยันตัวตน เพื่อตรวจสอบว่าบุคคลนั้นมีสิทธิ์เข้าพื้นที่หรือไม่ โดยเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ หากข้อมูลตรงกัน Controller จะส่งสัญญาณ “ปลดล็อก” ไปยังระบบประตูโดยอัตโนมัติ
3. ระบบประตูและกลไกทางเข้า (Door and Gate Mechanisms)
อุปกรณ์ในส่วนนี้ประกอบด้วยประตูล็อกไฟฟ้า ประตูอัตโนมัติ และระบบรักษาความปลอดภัยทางเข้ารูปแบบต่างๆ ซึ่งจะรับสัญญาณควบคุมจากระบบยืนยันตัวตน (Authentication System) เพื่อเปิดหรือปิดประตูตามสิทธิ์ที่กำหนดไว้ในระบบ
ประเภทของการยืนยันตัวตนในระบบ Access Control
วิธีการยืนยันตัวตนในระบบ Access Control เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทั้งความน่าเชื่อถือและความยืดหยุ่นของระบบ ทั้งยังต้องเลือกให้สอดคล้องกับระดับความปลอดภัยที่ต้องการและสภาพแวดล้อมการใช้งาน โดยประเภทหลักของการยืนยันตัวตนมีดังนี้
● การยืนยันตัวตนด้วยบัตร

เป็นวิธีที่พบได้บ่อยที่สุด มักใช้กับบัตรพนักงานหรือบัตรผ่านเข้าอาคาร โดยผู้ใช้ต้องแตะหรือสแกนบัตรกับเครื่องอ่าน อย่างไรก็ตามมีความเสี่ยงต่อการให้ยืมบัตร การส่งต่อบัตร หรือการทำบัตรหาย
● การยืนยันตัวตนด้วยรหัส PIN

เป็นการกรอกรหัสตัวเลขเพื่อยืนยันตัวตน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยระดับพื้นฐานและมีต้นทุนต่ำ แต่มีความเสี่ยงที่รหัสจะถูกบอกต่อ จึงควรเปลี่ยนรหัสเป็นระยะ
● การยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมทริก

ใช้ข้อมูลชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า หรือการสแกนม่านตา ข้อดีคือไม่เสี่ยงต่อการสูญหายเหมือนบัตร แต่หากตั้งค่าความเข้มงวดของการตรวจสอบสูงเกินไป อาจทำให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตไม่สามารถผ่านได้ ในทางกลับกัน หากตั้งค่าหลวมเกินไป ก็อาจเปิดช่องให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์เข้ามาได้
● การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย
เพื่อเสริมความปลอดภัย สามารถใช้การยืนยันตัวตนหลายรูปแบบร่วมกัน เช่น การใช้บัตรประจำตัวควบคู่กับรหัส PIN
ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบ Access Control: ปัญหาการลักลอบติดตาม (Tailgating)
หนึ่งในจุดอ่อนของระบบ Access Control คือ ความเสี่ยงของการลักลอบติดตาม หรือ Tailgating ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากผู้ได้รับอนุญาตผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว ระบบ Access Control ถูกออกแบบมาเพื่อให้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นสามารถเข้าสู่พื้นที่ได้หลังจากทำการยืนยันตัวตนสำเร็จ แต่ไม่ว่าองค์กรจะเลือกใช้วิธีการยืนยันตัวตนแบบใด ความเสี่ยงของการลักลอบติดตามก็ยังคงมีอยู่
การลักลอบติดตาม (Tailgating) คือสถานการณ์ที่บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเดินตามผู้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าไปยังพื้นที่ที่จำกัดสิทธิ์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากเจตนาร้าย หรืออาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก เช่น ช่วงที่ประตูเปิดค้างไว้นาน ทำให้ผู้ที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนเดินผ่านเข้าไปได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เหตุการณ์ลักษณะนี้ล้วน เพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

ตัวอย่างวิธีการป้องกันการลักลอบติดตาม (Tailgating):
- อุปกรณ์ประตูร่วมกับระบบจัดการการเข้าออกเพื่อควบคุมการผ่านทีละคน
การเชื่อมต่อประตูรักษาความปลอดภัยเข้ากับระบบจัดการการเข้าออก ทำให้สามารถควบคุมการผ่านทีละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พื้นที่ส่วนกลางที่มีระดับความปลอดภัยไม่มากนักอาจให้ความสำคัญกับความรวดเร็วในการอนุญาตให้ผ่าน แต่สำหรับพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง จะต้องมีการควบคุมการเข้าออกที่เข้มงวดกว่า - การป้องกันการลักลอบติดตามด้วยระบบแจ้งเตือน
มาตรการที่ใช้เซนเซอร์หรือ Active Tag มีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสถานที่ที่ไม่สามารถติดตั้งประตูรักษาความปลอดภัยได้
OPTEX มีโซลูชันป้องกันการลักลอบติดตามที่ใช้เทคโนโลยีตรวจจับภาพผ่านกล้องในตัวอุปกรณ์

โซลูชันป้องกันการลักลอบติดตามจาก OPTEX
แม้จะมีการติดตั้งระบบ Access Control แล้ว แต่ความเสี่ยงของการลักลอบติดตามก็ยังคงมีอยู่ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ OPTEX ได้นำเสนอ ACCURANCE OV-102 series ระบบตรวจจับการลักลอบติดตามด้วยกล้อง ซึ่งใช้เทคโนโลยีการประมวลผลภาพเฉพาะของ OPTEX เพื่อตรวจจับรูปร่างและการเคลื่อนไหวของมนุษย์แบบเรียลไทม์ ระบบสามารถตรวจจับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเดินตามผู้ที่ผ่านการยืนยันตัวตน และช่วยป้องกันการเข้าถึงพื้นที่ที่ควบคุมความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รายละเอียดเพิ่มเติม → https://optex-asean.com/th/solution/anti-tailgating-system/

ฟังก์ชันพื้นฐาน
- ส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อมีการลักลอบติดตาม
- ไม่ปลดล็อกประตู หากตรวจพบว่ามีหลายคนอยู่ในพื้นที่ตรวจจับด้านหน้าประตู
- สามารถเชื่อมต่อกับไซเรน ไฟแจ้งเตือน และระบบกล้องวงจรปิดผ่านระบบ Access Control
คุณสมบัติเด่น
- ติดตั้งง่าย เชื่อมต่อระบบได้อย่างราบรื่น: ติดตั้งแบบติดเพดาน ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต สามารถตั้งค่าผ่านเว็บเบราว์เซอร์
- รองรับการใช้งานในหลายสภาพแวดล้อม: ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของแสง มาพร้อมฟังก์ชันยกเลิกการตรวจจับเมื่อประตูเปิดค้าง
- คำนึงถึงความเป็นส่วนตัว: ไม่มีฟังก์ชันบันทึกภาพ
- เชื่อมต่อได้หลากหลาย: รองรับการเชื่อมต่อด้วย I/O รีเลย์ เพื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Access Control หลายประเภท

ตัวอย่างสถานการณ์การลักลอบติดตามที่สามารถป้องกันได้
- บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเดินตามผู้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้ามาทันที
- มีหลายคนผ่านเข้าพื้นที่พร้อมกัน จนไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ใดเป็นผู้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนจริง
- ผู้มาติดต่อหรือนักรับเหมาที่ตามพนักงานเข้าสู่พื้นที่ควบคุม โดยไม่มีการบันทึกข้อมูลการเข้าออก
วิดีโอเพื่อทำความเข้าใจระบบป้องกันการลักลอบติดตามของ OPTEX
สรุป: เสริมความแข็งแกร่งให้ระบบ Access Control ของคุณ
ระบบ Access Control เป็นโซลูชันพื้นฐานสำหรับการรักษาความปลอดภัยของสถานที่ แต่ความเสี่ยงของการลักลอบติดตาม (Tailgating) ก็ยังคงเกิดขึ้นได้แม้จะมีการยืนยันตัวตนแล้วก็ตาม ดังนั้น การเพิ่มมาตรการความปลอดภัยด้วยแนวทางแบบสองชั้น ทั้งการยืนยันตัวตนและการตรวจจับเพื่อป้องกันการลักลอบติดตาม จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
ระบบป้องกันการลักลอบติดตามของ OPTEX ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหานี้โดยเฉพาะ ช่วยป้องกันการเข้าถึงพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านการตรวจจับแบบเรียลไทม์ การแจ้งเตือน และการควบคุมประตู
หากต้องการข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการติดตั้ง กรุณาติดต่อ OPTEX Thailand
ติดต่อ OPTEX
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทุกเมื่อ
เราพร้อมให้การสนับสนุนและนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ







