LiDAR Sensor คืออะไร? เทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้ในงานด้านความปลอดภัย
LiDAR Sensor คืออะไร และทำไมจึงได้รับความสนใจในวงการความปลอดภัย?
LiDAR (Light Detection and Ranging) คือเทคโนโลยีการตรวจจับขั้นสูงที่ใช้หลักการยิงลำแสงเลเซอร์เพื่อวัดระยะทางและระบุตำแหน่งของวัตถุอย่างแม่นยำ โดยคำนวณจากระยะเวลาที่แสงสะท้อนกลับมายังตัวเซนเซอร์ ที่ผ่านมา LiDAR ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในงาน ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Driving) และ การทำแผนที่ภูมิประเทศ (Topographic Surveying) แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในด้าน ระบบรักษาความปลอดภัย (Security Systems) ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความต้องการโซลูชันอัจฉริยะที่เพิ่มขึ้นในหลากหลายด้าน เช่น บ้านอัจฉริยะ (Smart Homes), ระบบขนส่งอัจฉริยะ (Intelligent Transportation Systems) และ เมืองอัจฉริยะ (Smart Cities)
● หลักการทำงานของ LiDAR Sensor
LiDAR Sensor แบบ 2 มิติ (2D LiDAR) ทำงานด้วยการสแกนความเร็วสูง สามารถเก็บข้อมูลจุดตรวจวัด (Data Points) ได้หลายพันจุดในเวลาอันสั้น ทำให้สามารถตรวจจับวัตถุได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็น คน ยานพาหนะ หรือสัตว์ จึงเหมาะสำหรับการเฝ้าระวังและตรวจสอบพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ

● คุณสมบัติเด่นของ LiDAR Sensor (เมื่อเทียบกับเซนเซอร์ประเภทอื่น)
อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยแบบเดิม เช่น กล้องวงจรปิด เซนเซอร์อินฟราเรด และเซนเซอร์ไมโครเวฟ ถูกใช้งานมายาวนานในภาคความปลอดภัย แต่ยังคงมีข้อจำกัดหลายประการ ได้แก่:
- ประสิทธิภาพอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยแวดล้อม เช่น สภาพอากาศ แสงสว่าง หรืออุณหภูมิ
- มีโอกาสเกิดการแจ้งเตือนผิดพลาด (เช่น การเคลื่อนไหวของสัตว์ขนาดเล็ก หรือการเปลี่ยนแปลงของแสงและอุณหภูมิอย่างฉับพลัน) รวมถึงการตรวจจับพลาดในบางกรณี
- กล้องวงจรปิดอาจให้ภาพไม่ชัดเจนในสภาวะแสงน้อย
LiDAR Sensor จึงเข้ามาเป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพต่อข้อจำกัดเหล่านี้ ด้วยคุณสมบัติเด่นที่เหนือกว่า ได้แก่:
- ปรับตั้งค่าการตรวจจับได้อย่างยืดหยุ่น: สามารถกำหนดขนาดและความเร็วของวัตถุที่ต้องการตรวจจับได้ เพื่อลดการแจ้งเตือนผิดพลาด
- ทำงานได้อย่างแม่นยำทั้งกลางวันและกลางคืน: ให้ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้แม้อยู่ในความมืด ฝนตก หรือสภาพอากาศที่ท้าทาย
- กำหนดโซนตรวจจับได้ตามต้องการ: ช่วยให้เฝ้าระวังเฉพาะพื้นที่เป้าหมาย และหลีกเลี่ยงการตรวจจับในบริเวณที่ไม่จำเป็น
- ตรวจจับแบบครอบคลุมพื้นที่ (Surface Detection): แตกต่างจากเซนเซอร์อินฟราเรดแบบลำแสง (Beam Sensor) ที่ตรวจจับเฉพาะ “แนวเส้น” ขณะที่ LiDAR สามารถตรวจสอบพื้นที่ได้แบบ “ครอบคลุมทั้งพื้นผิว”
คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ LiDAR Sensor สามารถเฝ้าระวังพื้นที่ได้อย่างครอบคลุม ตรวจจับการบุกรุกจากหลายทิศทางพร้อมกัน และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
● แนวโน้มการพัฒนาและอนาคตของ LiDAR ในงานด้านความปลอดภัย
ตลาดเทคโนโลยีในปัจจุบันกำลังพัฒนา LiDAR Sensor ที่มีขนาดเล็กลง ราคาคุ้มค่ามากขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมอย่างต่อเนื่อง ในอนาคต เทคโนโลยี LiDAR มีแนวโน้มจะเข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ โดยเฉพาะเมื่อทำงานร่วมกับกล้องและเทคโนโลยี AI
ด้วยความสามารถในการตรวจจับที่แม่นยำและตอบสนองแบบเรียลไทม์ LiDAR Sensor กำลังได้รับการยอมรับให้เป็นโซลูชันใหม่ที่ช่วยตอบโจทย์ความท้าทายในการดำเนินงานด้านความปลอดภัย และเริ่มถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหลายภาคส่วน
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี LiDAR ในงานด้านความปลอดภัยในปัจจุบัน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา LiDAR Sensor ได้มีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในวงการรักษาความปลอดภัย เมื่อเทียบกับอุปกรณ์เฝ้าระวังแบบเดิม เทคโนโลยีนี้สามารถ กำหนดขอบเขตพื้นที่ได้อย่างชัดเจน และ ตรวจจับการเคลื่อนไหวด้วยความแม่นยำสูงแบบเรียลไทม์ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในหลากหลายสถานการณ์
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ LiDAR Sensor จึงไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังทั่วไปเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานได้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เมื่อมีการบุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาต การป้องกันการเข้าใกล้เครื่องจักรหรือยานพาหนะในพื้นที่อันตราย รวมถึงการตรวจจับพฤติกรรมต้องสงสัย เช่น การขว้างวัตถุข้ามเขตที่ห้ามเข้า
● การผสาน LiDAR เข้ากับระบบแจ้งเตือน
ปัจจุบัน LiDAR Sensor ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบแจ้งเตือนในหลากหลายพื้นที่ เช่น โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ สนามบิน, ศูนย์ข้อมูล, โรงงาน, พิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์
โดยเฉพาะเมื่อติดตั้งตามแนวเขตหรือพื้นที่หวงห้ามภายในอาคารหรือบริเวณต่างๆ LiDAR Sensor สามารถตรวจจับผู้บุกรุกแบบเรียลไทม์ พร้อมส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังจุดควบคุมของเจ้าหน้าที่ทันที ช่วยสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่ตอบสนองได้รวดเร็วและมีความอัจฉริยะสูง

● การทำงานร่วมกับกล้องวงจรปิด
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงที่ผสาน LiDAR Sensor กับกล้องวงจรปิดเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อ LiDAR Sensor ตรวจพบการบุกรุกหรือความผิดปกติ มันสามารถสั่งให้กล้องวงจรปิดทำงานอัตโนมัติ ติดตามเป้าหมาย และบันทึกภาพเหตุการณ์ทันที
การรวมระบบเช่นนี้ไม่เพียงช่วยตรวจจับการบุกรุกได้จริง แต่ยังสนับสนุนการบันทึกสถานการณ์และวิเคราะห์พฤติกรรม ทำให้สามารถประเมินภัยคุกคามได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ LiDAR Sensor ยังช่วยลดจุดบอดของกล้องในเวลากลางคืนหรือสภาพอากาศเลวร้าย ส่งผลให้การเฝ้าระวังมีความเชื่อถือได้และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์ LiDAR Sensor ของ OPTEX
OPTEX มีผลิตภัณฑ์ LiDAR Sensor หลากหลายรุ่นที่ออกแบบให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละพื้นที่
บทความนี้จะแนะนำคุณสมบัติเด่นและตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน ของโซลูชัน LiDAR จาก OPTEX
● คุณสมบัติและฟังก์ชันหลักของ LiDAR Sensor จาก OPTEX
- การตรวจจับแนวเฝ้าระวังด้วยความแม่นยำ
เซนเซอร์เหล่านี้ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์เฉพาะของ OPTEX วัดระยะทางได้อย่างแม่นยำ เพื่อตรวจจับการบุกรุกเข้าสู่พื้นที่หรือเส้นทางที่กำหนดแบบเรียลไทม์ สามารถแยกแยะ คน ยานพาหนะ และสัตว์ขนาดเล็ก ช่วยลดการแจ้งเตือนผิดพลาด - ประสิทธิภาพเสถียรในสภาพแวดล้อมท้าทาย
เซนเซอร์ยังคงทำงานได้อย่างเชื่อถือได้แม้ในสภาพแวดล้อมท้าทาย เช่น ฝนตกหรือในพื้นที่แสงน้อย เหมาะสำหรับการเฝ้าระวังรอบนอกอาคารและพื้นที่สำคัญ - การใช้งานหลากหลายและการรวมเข้ากับระบบอื่น
เซนเซอร์สามารถติดตั้งได้ทั้ง ภายในและภายนอกอาคาร และง่ายต่อการรวมเข้ากับ ระบบแจ้งเตือนและกล้องวงจรปิด ที่มีอยู่แล้ว รองรับโปรโตคอลการสื่อสารหลายรูปแบบ รวมถึง ONVIF - ตรวจจับพื้นที่กว้างและระยะไกล
รุ่น RLS-50100V สามารถสร้างพื้นที่ตรวจจับด้วยเลเซอร์ขนาดใหญ่สูงสุด 50 × 100 เมตร ช่วยครอบคลุมแนวรอบนอก พื้นที่ภายใน และการตรวจจับบนหลังคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้จำนวนเซนเซอร์น้อยลง - ผลิตภัณฑ์หลากหลายเพื่อตอบโจทย์การใช้งาน
OPTEX มีรุ่นให้เลือกหลากหลาย เช่น รุ่นระยะไกล (RLS-50100V), รุ่นที่ตรวจจับการโยนวัตถุ, และรุ่นที่มีกล้องในตัว ช่วยให้ผู้ใช้งานเลือกเซนเซอร์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ ประเภทการใช้งาน และสภาพการติดตั้งได้อย่างลงตัว ทีมผู้เชี่ยวชาญของ OPTEX พร้อมให้คำแนะนำในการเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละพื้นที่
● รุ่นผลิตภัณฑ์
การประยุกต์ใช้ LiDAR Sensor ของ OPTEX
LiDAR Sensor ของ OPTEX ถูกนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางในด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการพื้นที่
● การตรวจจับการบุกรุกและพฤติกรรมต้องสงสัย
LiDAR Sensor ของ OPTEX ถูกติดตั้งเพื่อตรวจจับการบุกรุกในพื้นที่เฉพาะ เช่น แนวรั้ว หลังคา หรือพื้นที่หวงห้ามภายในอาคารเชิงพาณิชย์ สนามบิน ศูนย์ข้อมูล โรงไฟฟ้า และศูนย์กระจายสินค้า
นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้เพื่อตรวจจับพฤติกรรมต้องสงสัย เช่น การเข้าใกล้หรือสัมผัสวัตถุสำคัญ การขว้างสิ่งของเข้าไปหรือข้ามพื้นที่หวงห้าม และการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาตอื่นๆ


● การบริหารจัดการการจราจร
LiDAR Sensor ของ OPTEX ยังถูกนำมาใช้ในงาน ความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจร เช่น เมื่อติดตั้งที่ทางเข้าทางหลวงหรืออุโมงค์รถไฟ สามารถตรวจจับบุคคลหรือสัตว์ที่ไม่ควรเข้าไปในอุโมงค์ได้ทันที และส่งสัญญาณเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม
นอกจากนี้ LiDAR Sensor ยังมีประสิทธิภาพในการ จัดการความปลอดภัยของคนเดินเท้าที่ทางม้าลาย ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการสัญจร


การสนับสนุนด้านการติดตั้งและใช้งานผลิตภัณฑ์
แม้ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนหรือมีความต้องการเฉพาะทาง ทีมงานผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ของเราพร้อมให้บริการให้คำปรึกษาอย่างเหมาะสม เพื่อออกแบบแนวทางการติดตั้งและการทำงานของเซนเซอร์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตามความต้องการของคุณ
เราพร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับแต่งระบบ เพิ่มฟังก์ชันการทำงาน หรือการรวมระบบเข้ากับโซลูชันอื่นๆ เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลิตภัณฑ์ของเรา
FAQ
1. LiDAR Sensor สามารถตรวจจับการบุกรุกในเวลากลางคืนหรือสภาพแวดล้อมที่มืดได้อย่างแม่นยำหรือไม่?
ได้แน่นอน — LiDAR (Light Detection and Ranging) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถตรวจจับการบุกรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง แม้ในสภาพแสงน้อย เช่น เวลากลางคืน หรือพื้นที่มืดภายในอาคาร เช่น ห้องเซิร์ฟเวอร์
เนื่องจาก LiDAR ใช้ลำแสงเลเซอร์ในการวัดระยะทางและระบุตำแหน่งของวัตถุ ระบบจึงสามารถตรวจจับได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ขึ้นอยู่กับสภาพแสง ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม
2. LiDAR Sensor ปลอดภัยต่อดวงตาของคนหรือไม่? และเลเซอร์ที่ใช้มีความปลอดภัยอย่างไร?
ปลอดภัยแน่นอน — LiDAR Sensor ของ OPTEX ใช้เลเซอร์ระดับ Class 1 ซึ่งเป็นระดับความปลอดภัยที่ไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา ภายใต้สภาวะการทำงานปกติ จึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อร่างกายหรือสายตาของผู้ใช้งาน
3. การผสานกล้องวงจรปิดเข้ากับ LiDAR Sensor มีประโยชน์อย่างไร?
การรวมกล้องวงจรปิดเข้ากับ LiDAR Sensor นำมาซึ่งข้อได้เปรียบสำคัญหลายประการ ได้แก่:
- เพิ่มความแม่นยำและความน่าเชื่อถือในการตรวจจับ
LiDAR Sensor มีความสามารถสูงในการตรวจจับคนและวัตถุด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ ทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในที่มืดหรือสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ขณะที่กล้องวงจรปิดช่วยยืนยันภาพจริงของเหตุการณ์ การทำงานร่วมกันของทั้งสองระบบช่วยลดการพลาดการตรวจจับและการแจ้งเตือนผิดพลาด ทำให้การประเมินภัยคุกคามและการตอบสนองมีความแม่นยำมากขึ้น - รับรู้สถานการณ์ได้รวดเร็วและตอบสนองแบบอัตโนมัติ
เมื่อ LiDAR Sensor ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยหรือกิจกรรมผิดปกติ สามารถสั่งการให้กล้องวงจรปิดทำงาน หรือสั่งให้กล้อง PTZ (Pan-Tilt-Zoom) ติดตามเป้าหมายโดยอัตโนมัติ - ปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย
การใช้เซนเซอร์ตรวจจับเพื่อเรียกใช้การยืนยันด้วยภาพช่วยลดภาระงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และลดข้อผิดพลาดจากเจ้าหน้าที่ (Human Error) ทำให้การปฏิบัติงานมีความแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้อีกด้วย
ติดต่อ OPTEX
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทุกเมื่อ
เราพร้อมให้การสนับสนุนและนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ











