กล้องวงจรปิดแบบ Stand-alone

• กล้องวงจรปิดช่วยตรวจสอบเหตุการณ์ย้อนหลัง
• ไม่สามารถตรวจจับเหตุการณ์ได้แบบเรียลไทม์
• ไม่สามารถส่งสัญญาณเตือนหรือดำเนินการได้ทันที
• การใช้เพียงแค่กล้องวงจรปิดอาจทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
• อาจทำให้การตอบสนองล่าช้าในช่วงเวลาสำคัญ

ระบบสัญญาณกันขโมยภายในอาคาร

• สัญญาณกันขโมยจะดังเมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามาในอาคารแล้วเท่านั้น
• ความล่าช้าดังกล่าวอาจนำไปสู่การโจรกรรม การบาดเจ็บ หรือความเสียหาย เช่น กระจกแตกหรือประตูถูกงัด
• ระบบภายในอาคารเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะปกป้องทรัพย์สินของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โรงงานรีไซเคิลที่มีพื้นที่รอบรั้วยาว 680 เมตร และมีวัตถุดิบมีค่าอย่างอะลูมิเนียมและสายทองแดง ได้ติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยไร้สายภายนอกอาคารของ OPTEX พร้อมเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดเดิมที่มีอยู่ ระบบนี้ช่วยให้สามารถดูภาพสดและแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อเหตุบุกรุกได้อย่างทันท่วงที

โรงงานขนาดใหญ่ที่มีแนวรั้วยาวกว่า 1,000 เมตร เผชิญกับค่าใช้จ่ายสูงในการติดตั้งระบบแบบเดินสายเพื่อป้องกันแนวรั้ว จึงเลือกใช้ระบบไร้สายของ OPTEX ซึ่งช่วยลดต้นทุนติดตั้งได้ถึง 60% เมื่อเทียบกับระบบเดิม พร้อมลดระยะเวลาในการติดตั้งได้มาก
ระบบยังสามารถเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด ทำให้สามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ร้านทองแห่งหนึ่งในไทยติดตั้งเซนเซอร์ทั้งภายในและภายนอกอาคาร พร้อมปุ่มฉุกเฉิน เพื่อเป็นมาตรการป้องกันการโจรกรรม
เซนเซอร์ภายนอกติดตั้งไว้ใกล้หน้าต่างหลังร้าน หากมีผู้บุกรุก ระบบจะส่งเสียงเตือนดังทันที ในระหว่างวัน พนักงานสามารถกดปุ่มฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือได้ ส่วนเวลากลางคืน ระบบเซนเซอร์ทั้งภายในและภายนอกจะช่วยตรวจจับการบุกรุกโดยอัตโนมัติ

หมู่บ้านแห่งหนึ่งในอยุธยาติดตั้งระบบกันขโมยภายนอกของ OPTEX ร่วมกับซอฟต์แวร์เฝ้าระวัง “GENIO Map”
เมื่อระบบตรวจพบการบุกรุก จะมีการแจ้งเตือนไปยังแอปบนมือถือของเจ้าของบ้าน พร้อมแสดงภาพเหตุการณ์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องรักษาความปลอดภัยของโครงการ หากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ในพื้นที่จะถูกส่งไปตรวจสอบทันที ระบบนี้ช่วยสร้างความอุ่นใจอย่างแท้จริงให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชน